7 Mar 2025

CHANEL CLASSIC มีกี่ไซซ์ อะไหล่ไหนบ้าง?

Artboard 1

ในยุคที่ตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว กระเป๋าแบรนด์เนมบางรุ่นก็กลายเป็นของหายากที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในแบรนด์ที่ครองใจนักสะสมและสายแฟชั่นตลอดกาลเลยก็คือ CHANEL ด้วยดีไซน์อันคลาสสิก วัสดุคุณภาพเยี่ยม และเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน ทำให้กระเป๋าของ CHANEL ไม่เพียงแต่เป็นไอเท็มแฟชั่น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีวี่แววว่าจะตกลง

กระเป๋าแบรนด์เนมของ CHANEL หลายรุ่นได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นวินเทจหรือรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ CHANEL โดดเด่นคือความ timeless ต่อให้ผ่านไปอีกกี่ปีก็ยังดูสวย หรูหรา และสามารถใช้งานได้ในหลากหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือการใช้ในชีวิตประจำวัน หากคุณกำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ทั้งคุ้มค่ากับการลงทุนและเสริมลุคให้ดูแพง CHANEL คือคำตอบ

Artboard 4
Chanel Classic กระเป๋าที่เป็นอมตะ

ถ้าพูดถึงกระเป๋าแบรนด์เนมที่ครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกและไม่มีวันตกยุค Chanel Classic Flap Bag ต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน กระเป๋ารุ่นนี้ถูกออกแบบโดย Karl Lagerfeld ในปี 1983 โดยเป็นการนำแรงบันดาลใจมาจาก Chanel 2.55 ที่สร้างขึ้นโดย Coco Chanel ในปี 1955 แต่มีการเพิ่มลูกเล่นที่ทำให้ดูโมเดิร์นและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น

เอกลักษณ์ของ Chanel Classic คือ ฝาพับด้านหน้า (Flap) ที่เป็นดีไซน์ไอคอนิก มาพร้อมกับ อะไหล่ CC Turn Lock ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีสายโซ่ร้อยหนังที่ช่วยเสริมความหรูหราและความสะดวกในการสะพาย ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือวันสบายๆ

ด้วยความคลาสสิกและดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา ทำให้ Chanel Classic Flap Bag กลายเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นกระเป๋า Brandname ที่เหมาะกับการลงทุนและการใช้งานในระยะยาวอย่างแท้จริง!

หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้กระเป๋า Chanel Classic Flap Bag เป็นที่นิยมและครองใจสาวๆ ทั่วโลก คือความหลากหลายของขนาดที่มีให้เลือกเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูและการใช้งานที่คล่องตัว ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้กลายเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่เหมาะกับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการลงทุนระยะยาว กระเป๋า Chanel Classic Flap มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ใบเล็กกะทัดรัดไปจนถึงใบใหญ่จุของได้มาก โดยแต่ละขนาดก็มีเสน่ห์และฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันไป

เริ่มจาก Chanel Classic Mini Square ซึ่งเป็นไซซ์เล็กสุดของกระเป๋า Chanel Classic มีขนาดประมาณ 6.5 x 5 x 2.5 นิ้ว หรือ 16.5 x 12.7 x 6.35 เซนติเมตร เหมาะสำหรับคนที่ชอบความมินิมอลและการพกพาที่สะดวก ใส่ของใช้จำเป็นเล็กๆ น้อยๆ อย่างโทรศัพท์มือถือ กุญแจ หรือลิปสติก เหมาะสำหรับออกงานเล็กๆ หรือใช้ในวันสบายๆ 

ต่อมาคือไซซ์ Mini Rectangular ที่มีขนาด 7.9 x 4.8 x 2.8 นิ้ว หรือ 20 x 12 x 7 เซนติเมตร ซึ่งยังคงเป็นไซซ์เล็กแต่สามารถใส่ของได้มากขึ้น เช่น กระเป๋าสตางค์ใบเล็กและของใช้จำเป็น เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ไซซ์ Small ของ Chanel Classic Flap Bag มีขนาด 9.3 x 5.7 x 2.6 นิ้ว หรือ 23.5 x 14.5 x 6.6 เซนติเมตร เป็นขนาดกะทัดรัดที่ยังคงความหรูหรา ใส่ของใช้ประจำวันได้ครบ เหมาะกับคนที่มีรูปร่างเล็กหรือชอบกระเป๋าขนาดพอดี 

ส่วนไซซ์ Medium ซึ่งเป็นขนาดยอดนิยม มีขนาด 10 x 6.3 x 3 นิ้ว หรือ 25.5 x 16 x 7.6 เซนติเมตร ด้วยขนาดที่กำลังดี ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งในวันธรรมดาและโอกาสพิเศษ ใส่ของจำเป็นได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ หรือเครื่องสำอาง

สำหรับคนที่ชอบกระเป๋าใบใหญ่ Chanel Classic Flap Bag ก็มีไซซ์ Jumbo ที่มีขนาด 11.8 x 7.9 x 3.9 นิ้ว หรือ 30 x 20 x 10 เซนติเมตร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บของมากขึ้น ใส่ของใช้ประจำวันได้ครบถ้วน รวมถึงไอเท็มเพิ่มเติม เช่น สมุดโน้ตหรือแท็บเล็ต 

และสุดท้ายคือไซซ์ Maxi ซึ่งเป็นไซซ์ใหญ่ที่สุด มีขนาด 13.4 x 9.1 x 3.9 นิ้ว หรือ 34 x 23 x 10 เซนติเมตร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระเป๋าใบใหญ่ที่โดดเด่นและสามารถใส่ของได้เยอะ เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นหรือการใช้งานในวันที่ต้องการความจุเป็นพิเศษ

ด้วยความหลากหลายของขนาดและดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา ทำให้ Chanel Classic Flap Bag เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่งและมือสอง ไม่ว่าจะเป็นขนาดไหน กระเป๋ารุ่นนี้ก็ยังคงความหรูหราและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสามารถใช้งานได้ในหลากหลายโอกาส

Artboard 4 copy
อะไหล่ที่เลือกได้ตามความชอบ

กระเป๋า CHANEL Classic Flap เป็นหนึ่งในไอคอนของวงการแฟชั่นที่ได้รับความนิยมสูงไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เนื่องจากดีไซน์ที่หรูหราและไม่ตกยุค นอกจากวัสดุและดีไซน์ที่โดดเด่นแล้ว กระเป๋ารุ่นนี้ยังมีตัวเลือกอะไหล่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ โดยอะไหล่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ อะไหล่ทอง (Gold Hardware) และ อะไหล่เงิน (Silver Hardware) ซึ่งแต่ละแบบให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน

อะไหล่ทอง มักจะให้ความรู้สึกหรูหราและคลาสสิก เหมาะสำหรับการใช้งานในโอกาสพิเศษและเพิ่มความสง่างามให้กับผู้ถือ กระเป๋าที่มีอะไหล่ทองจึงดหมาะกับการใช้งานในงานทางการหรือสถานการณ์ที่ต้องการความหรูหรา

นอกจากนี้อะไหล่ทองยังมีให้เลือกอีกหลายเฉดมากมายไม่ว่าจะ Shiny Gold / Matte Gold / Light Gold / Rose Gold หรือ Vintage Gold 

ในขณะที่ อะไหล่เงิน ให้ความรู้สึกทันสมัยและสะอาดตา ดูเรียบหรู เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ที่ดูทันสมัยและไม่โอเวอร์จนเกินไป อะไหล่เงินสามารถเข้ากับลุคที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ทั้งลุคทางการและลุคสบาย ๆ รวมทั้งมีให้เลือกเฉดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Shiny Silver Hardware /  Matte Silver Hardware / Ruthenium hardware

ไม่ว่าจะเลือกอะไหล่ทองหรือเงิน CHANEL Classic Flap ก็ยังคงเป็นกระเป๋าที่ไม่ตกยุคและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในการลงทุนตลอดกาล


BLOG

RELATED ARTICLES

 
Artboard 11

YSL WOC เทียบขนาดทั้ง 2 ไซซ์ ชอปใบไหนดี!?

 
Artboard 11

Chanel Boy มีกี่ไซซ์ อะไหล่ไหนที่ใช่สุด!?

 
WEbgucci dionysus 03

Gucci Dionysus มีกี่ไซซ์? เลือกยังไงให้ปัง!

 

เลือกไซซ์ที่ใช่ Louis Vuitton On The Go ความลงตัวของสไตล์และฟังก์ชั่น

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping